คณะของเรามีทั้งหมด 12 คนกับเด็กน้อยอีกหนึ่งคน เราออกเดินทางจากอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช สู่ อำเภอนบพิตำ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง เข้าสู่ที่พัก ที่หนำไพรวัลย์
ที่พักของเรา เราพักกันที่หนำ เชิงไพร กำหนดพักได้ไม่เกิน 15 คน 2,500 บาทต่อคืน
ภาพที่พัก หนำเชิงไพร หนำไพรวัลย์รีสอร์ท
ห้องพักประกอบไปด้วย ห้องพักแบ่งเป็น 4 ห้อง ชั้นบน 1 ห้อง ชั้นกลาง 2 ห้อง ชั้นล่างอีก 1 ห้องจ้า รีสอร์ทนี้จะเน้นแนวคิดพึ่งพิงธรรมชาติ ลดการใช้พลังงาน ภายในห้อง จำไม่มีแอร์ ไม่มีทีวี ไม่มีน้ำอุ่น กระทั่งสัญญาณโทรศัพท์ของ Dtac ก็แทบจะไม่มี เหมาะอย่างหรับผู้ที่ต้องการพักผ่อนอย่างสงบจริงๆ อิอิ
หลังจากคณะเรานำของเก็บเข้าที่พักแล้ว ก็จัดการรับประทานอาหารเที่ยง เมณูอาหารเที่ยง จะเป็นแบบง่ายๆ ค่ะ
บรรยากาศหนำรับประทานอาหารสองชั้น บรรยากาศโดยรอบ
อีกภาพ
วิวจากที่รับประทานอาหาร
อาหารเที่ยง มีไม่เยอะ อาหารเบาๆก่อน
ข้าวดอกอัญชัน
กล่องใส่เช็ดชู่ไอเดีย
เรือนรับประทานอาหารยามค่ำคืน
หลังจากรับประทานอาหารเที่ยงเสร็จ ก็ได้เวลานัดหมาย 13.15 น. วันนี้มีโปรแกรม เดินชมถ้ำหงส์ ล่องแก่งคลองกลาย แช่บ่อน้ำพุร้อน ออกเดินทางกันเลยจ้า
ออกเดินทางกับคันนี้เลย ขึ้นเขาลงห้วยไม่หวั่นจริงๆคันนี้
ถึงถ้ำหงส์แล้ว ซื้อไฟฉายกันก่อน กระบอกละ 100 แนะนำเอาไปเองจ้า จะได้ไม่ต้องซื้อ ค่าธรรมเนียมเข้าถ้ำหงส์คนละ 40 บาทจ้า
ทางเข้าถ้ำหงส์ เล็กไปไหมเนี่ย ภายในถ้ำหงส์ประกอบด้วย 7 ชั้น แต่วันนี้เราเข้าได้แค่ 3 ชั้นเพราะค้างคาวกำลังออกลูก เจ้าหน้าที่อุทยานให้เข้าได้แค่ 3 ชั้น เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนจ้า เพราะพอคนเข้าไปแล้วเจอค้างคาว ส่องไฟไปค้างคาวตกใจทิ้งลูกน้อยแล้วบินหนีไป
ลงได้แฮะ
ภายในถ้ำมืดมากๆในถ้ามีน้ำตกไหลผ่านตลอด ทั้งปี ช่วงฝนตก น้ำจะเต็มถ้ำเลยทีเดียว เห็นได้จากเศษกิงไม้ที่ติดอยู่บนเพดานถ้ำ เจ้าหน้าที่อุทยานจะนำทางเราตลอดเส้นทางเพื่อความปลอดภัย
หินงอกหินย้อยในถ้ำสวยงาม และสมบูรณ์มาก ที่มาของถ้ำหงส์เกิดจาก หินย้อยจะหยดลงมาเป็นรูปหงส์สวยงามมาก

ชั้นที่สาม เรามาได้แค่นี้ เป็นน้ำตก จำชื่อไม่ได้แล้วจ้า ระยะทางจากปากถ้ำแค่ 70 เมตร แต่ก็ลำบากพอสมควร ต้องมุดต้องลอด ทุลักทุเลน่าดูทีเดียว

ออกจากถ้ำแล้วจ้า ระยะทางจากหน้าอุทยาน ถึงตัวถ้ำแค่ 200 เมตร ทางเดินสะดวกดีจ้า

สถานีต่อไป ล่องแก่งคลองกลาย แต่พอเรามาถึงอีกคณะนึงกำลังจะไปพอดี เราเลยเปลี่ยนแผนไปแช่น้ำพุร้อนกันก่อน

บ่อน้ำพุร้อน บ่อต้นกำเนิด บ่อนี้อุณหภูมิสูงประมาณ 55 องศา

จากบ่อต้นกำเนิด จะต่อท่อน้ำมาที่นี้เพื่อปรับอุณหภูมิให้พอที่จะแช่ได้ ตอนแรกเราก็แช่เฉพาะเท้า ซักพักแช่ทั้งตัวเลย น้ำที่ใช้แช่นี้ เจ้าหน้าที่จะเปลี่ยนน้ำใหม่ตลอด ตลอดการแช่มีเจ้าหน้าที่ดูแล เลี้ยงน้ำกระเจี๊ยบ น้ำดอกอัญชัน อร่อยมาก สถานีนี้ค่าบริการแค่ คนละ 20 บาทเองจ้า เป็นสถานที่ท่องเที่ยวของชุมชน ที่ดูแลกันเองโดยคนในชุมชนจ้า

แช่น้ำพุร้อนกันจนตัวซีด ก็ไปต่อกันที่ล่องแก่งคลองกลาย

เพื่อความปลอดภัย ตรวจสอบเสื้อชูชีพให้รัดกุมกันก่อนจ้า

ขี่รถไปจุดล่องแก่ง นั่งรถก็เสียวแล้วจ้า เส้นทางขรุขระมากมาย

ถึงแล้วจ้า จุดเริ่มต้นการล่องแก่ง น้ำไม่ลึกมาก แพมีทั้งแบบลำเล็กลำใหญ่จ้า

เส้นทางล่องแก่งกว่า 7 กิโลเมตร

สิ้นสุดเส้นทางแล้วจ้า ระหว่างเส้นทางไม่มีรูปเลย เพราะไม่ได้เอากล้องไปจ้า ล่องแก่งที่นี่น้ำจะไม่แรงมาก และไม่ลึกมาก แต่เรือลำเล็กจะคว่ำบ่อย เรือลำใหญ่ไม่คว่ำจ้า เลือกกันเอาเองจ้า

กลับกันแล้วจ้า สนุกดีกับการล่องแก่ง ซึ่งเป็นของรัฐวิสาหกิจชุมชน ดูแลโดยชาวบ้านกันเอง ค้าใช้จ่ายล่องแก่งนี้ คนละ 250 บาทจ้า

กลับที่พัก อาบน้ำ เตรียมตัวรับประทานอาหารเย็นจ้า อาหารเย็นมีประมาณ 10 เมณูจ้า

ยำผักอะไรซักอย่าง เก็บจากหลังรีสอร์ท สดมาก






ยังมีผลไม้อีก แต่ถ่ายไม่หมด เพราะหิวมาก กินอิ่มแล้ว จึงกลับมาเก็บภาพจ้า


หลังจากรับประทานอาหารเย็นแล้ว ก็มีกิจกรรมหลังอาหารเย็น

กิจกรรมทำ ขนมโคจ้า ทางรีสอร์ทเตรียมแป้งให้ เราปั้นและต้มกินกันสดๆ จ้า

ต้มๆ พอลอยขึ้นมาก็ตักใส่ในมะพร้าวขูด กินได้ทันที อร่อยมาก

กิจกรรมรอบกองไฟ ย่างข้าวโพด มัน นั่งคุยชิวๆ รอบกองไฟ แค่นี้ก็ ฟินแล้ว ประมาณสี่ทุ่มห้าทุ่มก็ เข้านอนเก็บแรงไว้เดินทางไกลขึ้นน้ำตกกรุงชิงพรุ่งนี้จ้า

เช้านี้ตื่นมาพร้อมกัน 05.30 น.เพื่อไปเยือนทะเลหมอกกรุงชิงกันจ้า











ดื่มกาแฟแกล้มทะเลหมอก ผู้ใหญ่มาเล่าเรื่องความเป็นมาของสถานที่นี้ สถานที่นี้สมัยก่อน ญี่ปุ่นเข้ามาทำสัมปทานเหมืองแร่เหล็ก ภูเขานี้เป็นภูเขาแร่เหล็ก มีการขุดภูเขา จากความสูง หกร้อยกว่าเมตร จนเหลือแค่สามร้อยกว่าเมตร จึงหยุดขุดเพราะแร่เหล็กเหลือน้อยลง






ทะเลหมอกที่นี้มีทั้งปีจ้า จะมีหมอกน้อยหน่อย ถ้าวันไหนเจอฝนตกตอนเช้าจ้า

ลุยกับคันนี้ตลอดจ้า

กลับมาที่พัก รับประทานอาหารเช้า เตรียมตัวไปต่อกับ น้ำตกกรุงชิง



หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จ ก็ไปต่อกันกับน้ำตกกรุงชิง

ออกเดินทางจากรีสอร์ท สู่กรุงชิง อาหารกลางวันเป็นข้าวกล่องห่อใบไม้ ให้ทางรีสอร์ทจัดทำให้ คนละ 50 บาทจ้า

ถึงแล้วจ้า จุดเริ่มต้น สู่น้ำตกกรุงชิง ค่าธรรมเนียมคนละ 40 บาทจ้า

ลำธารข้างจุดบริการนักท่องเที่ยว ปลาเยอะมาก
ระยะทางเดินเท้า 3.7
กิโลเมตร ไปกลับก็ประมาณ 7.2 กิโลเมตรเส้นทางเดิน ค่อนข้างสะดวก
โดยส่วนตัวจะแบ่งการเดินทางออกเป็นสามช่วง
ช่วงแรกจะเป็นทางวิบากเดินขึ้นเขาประมาณเจ็ดร้อยเมตรแรก
ช่วงสองเป็นทางเดินเรียบๆ
และช่วงสุดท้ายเป็นเส้นทางลงเขาไกลมากและชันมากต่มีบันไดให้
ค่อนข้างสะดวกจ้า





ป่ากรุงชิง ในอดีตเป็นที่อยู่ของ คอมมิวนิสต์อย่างชุกชน ป่านี้หลายชีวิตจึงจบชีวิตลงระหว่างการต่อสู้ของฝั่งรัฐบาลและคอมมิวนิสต์

ต้นหลุมพอยักษ์ ต้นไม้เนื้อแข็งมาก ขนาดที่ปลวกกัดไม่เข้าจ้า

ถึงศาลาพักริมทางแล้วจ้า

เส้นทางเดินสะดวก ทดสอบกำลังใจกับระยะทางไกล และสัตว์ตัวน้อยที่เรียกว่า ทาก ซึ่งจะคอยไต่มาดูดเลือดเราโดยเราไม่รู้ตัวจ้า แนะนำว่า ควรจะพก น้ำมันมวยทาให้ทั่วที่เท้า หรือใช้ยาเส้นแช่น้ำก็ได้ ช่วยได้พอสมควรจ้า คณะเราโดนไปหลายตัวทีเดียว ทากขึ้นมาได้ไกลสุดถึงคอทีเดียว ไต่ขึ้นมาได้ไง ไม่รู้ตัวเลย อิอิ

ถึงศาลาอีกแห่งหนึ่ง ใกล้ถึงน้ำตกชั้นที่สวยที่สุดแล้วจ้า
น้ำตกกรุงชิงประกอบด้วยน้ำตกทั้งหมด 7 ชั้นจ้า หลังจากออกจากศาลานี้ ฝนตกหนักมาก แต่คณะเราก็บากบั่นไปจนถึงน้ำตกชั้นที่ 2 จนได้

ถึงแล้วจ้า น้ำตกชั้นที่ 2 หนานฝนแสนห่า ที่ครั้งหนึ่งเคยได้รับเกียรติให้ได้ตีพิมพ์หลังธนบัตรใบละ 1000 บาทของประเทศไทย เมื่อมาถึงฝนตกลงมาอย่างหนักมากๆ จึงไม่ได้เล่นน้ำ รีบเดินทางกลับกันจ้า น่าเสียดายมาก





ป่ากรุงชิง ในอดีตเป็นที่อยู่ของ คอมมิวนิสต์อย่างชุกชน ป่านี้หลายชีวิตจึงจบชีวิตลงระหว่างการต่อสู้ของฝั่งรัฐบาลและคอมมิวนิสต์

ต้นหลุมพอยักษ์ ต้นไม้เนื้อแข็งมาก ขนาดที่ปลวกกัดไม่เข้าจ้า

ถึงศาลาพักริมทางแล้วจ้า

เส้นทางเดินสะดวก ทดสอบกำลังใจกับระยะทางไกล และสัตว์ตัวน้อยที่เรียกว่า ทาก ซึ่งจะคอยไต่มาดูดเลือดเราโดยเราไม่รู้ตัวจ้า แนะนำว่า ควรจะพก น้ำมันมวยทาให้ทั่วที่เท้า หรือใช้ยาเส้นแช่น้ำก็ได้ ช่วยได้พอสมควรจ้า คณะเราโดนไปหลายตัวทีเดียว ทากขึ้นมาได้ไกลสุดถึงคอทีเดียว ไต่ขึ้นมาได้ไง ไม่รู้ตัวเลย อิอิ

ถึงศาลาอีกแห่งหนึ่ง ใกล้ถึงน้ำตกชั้นที่สวยที่สุดแล้วจ้า
น้ำตกกรุงชิงประกอบด้วยน้ำตกทั้งหมด 7 ชั้นจ้า หลังจากออกจากศาลานี้ ฝนตกหนักมาก แต่คณะเราก็บากบั่นไปจนถึงน้ำตกชั้นที่ 2 จนได้

ถึงแล้วจ้า น้ำตกชั้นที่ 2 หนานฝนแสนห่า ที่ครั้งหนึ่งเคยได้รับเกียรติให้ได้ตีพิมพ์หลังธนบัตรใบละ 1000 บาทของประเทศไทย เมื่อมาถึงฝนตกลงมาอย่างหนักมากๆ จึงไม่ได้เล่นน้ำ รีบเดินทางกลับกันจ้า น่าเสียดายมาก

อีกรูปสำหรับ ชั้นที่ 2 ของน้ำตกกรุงชิงจ้า
สรุปค่าใช้จ่ายสำหรับทริปนี้จ้า
- ค่าที่พัก 2,500 บาท ต่อหลังจ้า
- ค่าทริป 700 บาท/คน ประกอบด้วย รถนำเที่ยว,อาหาร 3 มื้อ,กาแฟบนทะเลหมอก
- เยือนถ้าหงส์ ค่าธรรมเนียมคนละ 40 บาท
- ล่องแก่ง คนละ 250 บาท
- แช่น้ำพุร้อน คนละ 20 บาท
- เดินป่ากรุงชิง ค่าธรรมเนียม คนละ 40 บาท
รีวิว by ร้านกระเป๋าสตางค์ผู้ชาย


















ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น